กลยุทธ์การเล่นโป๊กเกอร์
นี่คือลิงค์ล่าสุดเพื่อเข้าสู่ M88
m88so.com
789c88.com
m7889.com
88ms88.com
m998877.com
m886789.com
ms88po.com
ในการเล่นโป๊กเกอร์นั้นผู้เล่นส่วนมากจะสนใจเพียงกติกาการเล่น
อันดับความใหญ่ของไพ่ในโป๊กเกอร์และมักเริ่มเล่นโดยการเล่นทุกมือหรือการเล่นในทุกรอบเพื่อที่จ
ะดูลักษณะค่าไพ่ในไพ่กองกลางเพื่อนำไพ่ของตนมาวัดดวง
หากไพ่ที่ผู้เล่นถือเป็นไพ่ที่มีค่ามากก็จะเกทับ (Raise) หากไม่ดีก็จะหมอบ (Flop)
ซึ่งวิธีเล่นแบบนั้นอาจทำให้ผู้เล่นแพ้ในเกมได้ดังนั้นผู้เขียนจึงอยากจะเสนอเทคนิคการเล่นเพื่อให้ผู้
เล่นได้เปรียบ และสามารถชนะได้ในเกม
เทคนิคการเล่นโป๊กเกอร์
1.เทคนิคการเลือกมือเริ่ม (Poker starting hand) มือเริ่มคือ
รอบการเล่นที่ได้รับแจกไพ่โดยผู้เล่นทุกคนที่ได้รับ ไพ่ที่แจกนั้นจะนำไพ่ที่ได้ไปรวมกับไพกองกลาง
หรือไพ่ Flop เพื่อผสมให้ได้ไพ่ที่มีค่ามากหรือใหญ่ที่สุด
โดยอันดับแรกผู้เล่นต้องรู้จักลักษณะการเรียกชื่อและค่าของไพ่
โดยข้อความด้านล่างจะแสดงค่าของไพ่จากมากไปน้อย
1.รอยัลฟลัช (Royal Flush) เป็นมือที่สูงที่สุด ประกอบด้วย 10♥ J♥ Q♥ K♥ A♥ ซึ่งมีดอกเดียวกัน
ดอกใดก็ได้ อัตราที่จะเกิดมือนี้คือ 1 ใน 650,000 มือ
2.สเตรทฟลัช (Straight Flush)( ประกอบด้วย สเตรท และ ฟลัช) สเตรทที่มีดอกเหมือนกัน Q♣
J♣ 10♣ 9♣ 8♣ ซึ่งก็คือไพ่ 5 ใบที่มีดอกเดียวกัน และเรียงลำดับกัน โอกาสที่จะเกิดคือ 1 ใน
72,000 มือ
3.โฟร์การ์ด (Four of a kind)ไพ่ 4 ใบที่มีแต้มเท่ากัน 4♣ 4♠ 4♦ 4♥ 6♣ โอกาสที่จะเกิดคือ 1 ใน
4,200 มือ
4.ฟูลเฮาส์ (Full House) ตองและคู่ นับตองก่อนเช่น 3♣ 3♠ 3♦ 6♣ 6♥ โอกาสที่จะเกิดคือ 1 ใน
700 มือ
5.ฟลัช (Flush) ไพ่ 5 ใบที่มีดอกเดียวกันเช่น Q♣ 10♣ 7♣ 6♣ 4♣ โอกาสที่จะเกิดคือ 1 ใน 510
มือ
6. สเตรท (Straight) ไพ่ 5 ใบดอกใดก็ได้ที่มีแต้มเรียงลำดับต่อกันเช่น Q♣ J♠ 10♠ 9♥ 8♥
โอกาสที่จะเกิดคือ 1 ใน 250 มือ
7.ตอง (Three of a kind) ไพ่ 3 ใบที่มีแต้มเท่ากัน 2♦ 2♠ 2♣ K♠ 6♥ โอกาสที่จะเกิดคือ 1 ใน 48
มือ
8. 2 คู่ (Two pair) คู่ 2 ชุด J♥ J♣ 4♣ 4♠ 9♥ โอกาสที่จะเกิดคือ 1 ใน 21 มือ
9. 1 คู่ (One pair)ไพ่ที่มี 1 คู่ เช่น 4♥ 4♠ K♠ 10♥ 5♠ โอกาสที่จะเกิดคือ 1 ใน 2.4 มือ
10. ไพ่สูง (High card)ไพ่ที่ดีที่สุดจะเป็นผู้ชนะหากมือต่างๆเช่น K♥ J♣ 8♣ 7♦ 3♠
ข้างต้นไม่มีอยู่แล้ว โอกาสที่จะเกิดคือ 1 ใน 2 มือ
เมื่อทราบความหมายและค่าของไพ่แล้วสามารถที่จะวิเคราะห์และประยุกต์การเล่นได้ถ้าหากไพ่ที่คุ
ณได้นั้นมีค่าน้อยผู้เล่นควรที่จะรอและเมื่อไพ่ในมือผู้เล่นเป็นไพ่ที่ดีควรที่จะสู้ตามสถานการณ์และโ
อกาสในรอบการเล่นนั้น
2.เทคนิคการเกทับหรือเทคนิคการ Raise
พื้นฐานในการเกทับ(Raise) การเกทับที่ดีควรเกทับ 50%
ของเงินกองกลาง(Pot)ขึ้นไปอาทิเช่นหาก เงินกองกลางมีอยู่ 100 ก็ควรจะเกทับไป 50
หากเกทับไปเพียง 20 หรือ 30 จะทำให้ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามสามารถอ่านทางไพ่ของเราออกได้
ซึ่งหากผู้เล่นถือไพ่ดีก็ควรที่จะวางเดิมพันสูง
เพื่อที่จะสร้างความน่าเชื่อถือในเกมและสามารถคุมเกมได้ง่ายขึ้น
3.เทคนิคการเล่นแบบใช้หลัก ABC Pocker
3.1 เลือกไพ่อย่างอย่างอดทนและรอบคอบก่อนลงเงิน
และเล่นเฉพาะไพ่ที่ดีตามรอบการเล่นนั้นๆ
3.2 ลงเงิน หรือเกทับ เมื่อไพ่ที่ผู้เล่นถือในมือเป็นไพ่ที่ดี
3.3 ผู้เล่นควรผ่านหรือหมอบ (Fold) เมื่อไพ่ที่ผู้เล่นถือมีค่าน้อยในรอบการเล่นนั้นๆ
3.4 เมื่อผู้เล่นต้องการรอไพ่ให้สู้ตาม
เพื่อที่จะทำให้ผู้เล่นมีโอกาสได้มือดีที่สุดแต่ให้คำนึงถึงโอกาสที่ผู้เล่นจะ
ออกไพ่และการลงเงินในรอบการเล่นนั้นๆ
5.ห้าม Bluff
6.ผู้เล่นอย่าเล่นช้าหรือวางกับดักคู่ต่อสู้เหมือนกับผู้เล่นไม่มีไพ่ที่ดีอยู่ในมือ
หากผู้เล่นมีไพ่ที่ดีอยู่ในมือ เพราะอาจจะเป็นโอกาสให้ผู้เล่นอื่นได้ดูไพ่ของผู้เล่นฟรี
4.เทคนิคการอ่านคนในการเล่นโป๊กเกอร์
ในการเล่นโป๊กเกอร์นั้นสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือ
การดูอาการคู่ต่อสู้หรือผู้เล่นอื่นรวมถึงการอ่านไพ่ในมือของผู้เล่นอื่น
เพื่อสามารถประเมินไพ่ในมือผู้เล่นอื่นหรือเพื่อหาโอกาสการลงไพ่ของผู้เล่นเองซึ่งวิธีหรือห
ลักการคิดนั้นผู้เขียนจะเรียงระบบความคิดออกเป็นระดับ 1 ถึง
5โดยผู้เล่นจะต้องคิดเรียงเป็นลำดับๆไป
ระดับที่ 1 คือให้คิดว่าผู้เล่นถือไพ่แบบไหนอยู่ในมือ
ระดับที่ 2 คือให้ผู้เล่นคิดว่าคู่ต่อสู้ถือไพ่อะไรอยู่ในมือ
ระดับที่ 3 คือให้ผู้เล่นคิดว่าคู่ต่อสู้คิดว่าตัวของผู้เล่นเองถือไพ่แบบไหนอยู่ในมือ
ระดับที่4 คือให้ผู้เล่นคิดว่าคู่ต่อสู้คิดว่าตัวคู่ต่อสู้นั้นถือไพ่แบบไหน
ระดับที่ 5 คือให้ผู้เล่นคิดว่าถ้าคู่ต่อสู้คิดว่าผู้เล่นถือไพ่แบบไหนในมือ
5.เทคนิคการคำนวณ pot odd & out เพื่อการลงทุนในโป๊กเกอร์
โดยทั่วไปผู้เล่นโป๊กเกอร์จะไม่คำนึงถึงการ pot odd หรือ out
ซึ่งทั้งเทคนิคที่ได้กล่าวมานั้นเป็นการคำนวณโอกาสการได้เงิน
และโอกาสการเดาไพ่เพื่อเลือกวิธีเล่นซึ่ งอันดับแรกผู้เล่นต้องเข้าใจความหมายของ pot odd
เป็นเช่นไรและ out เป็นเช่นไรก่อน
5.1 Pot odd คือ ค่าโอกาสที่ผู้เล่นจะได้รับเงินจากการเล่นในรอบนั้น ตัวอย่างเช่น สมมุติ
เงินกองกลาง(pot)มี 800 มีผู้เล่นเกทับ(Raise)เพิ่มอีก 100 pot odd จะเท่ากับ 1:8
และถ้าสมมุติให้เงินกองกลาง(pot)เท่ากับ 800 และมีผู้เล่นเกทับ(Raise)เพิ่มเป็น 200 pot
odd จะเท่ากับ 1:4
5.2 Out คือ การออกไพ่จากไพ่กองกลางเพื่อให้ไพ่ในมือของผู้แล่นเป็นไพ่ที่ดี
หรือมีค่ามากขึ้นซึ่งใน poker นั้นจะนำไพ่ออกมาเล่น 5 ใบจาก 52 ใบดังนั้นจะเหลือไพ่อีก
47 ใบที่ผู้เล่นยังเห็น
ซึ่งผู้เล่นสามารถวิเคราะห์จากหลักความน่าจะเป็นตามไพ่ที่ถือในมือของผู้เล่นเอง
โดยเมืออัตราส่วนของpot odd และ out เท่ากันผู้เล่นสามารถสู้ได้
ทั่วไปโอกาสของไพ่ที่จะเกิดในการเล่นจะเป็นดังนี้
1.ไพ่คู่ เจอ ไพ่ตอง โอกาสการ pot odd และ out เท่ากับ 1:23
2.ไพ่เดี่ยว เจอ ไพ่คู่ โอกาสการ pot odd และ out เท่ากับ 1:14
3.รอไพ่เรียงใบเดียว โอกาสการ pot odd และ out เท่ากับ 1:10
4.รอไพ่เรียงสองใบโอกาสการ pot odd และ out เท่ากับ 1:6
5.รอไพ่สีFlush โอกาสการ pot odd และ out เท่ากับ 1:5
6.ไพ่ใหญ่ไม่มีคู่สองใบเจอคู่ โอกาสการ pot odd และ out เท่ากับ 1:7
7.รอไพ่ Flush และไพ่เรียง โอกาสการ pot odd และ out เท่ากับ 1:3
คำศัพท์ของการเล่นไพ่โป๊กเกอร์
– การแจกครั้งแรก หมายถึง ไพ่ชุดแรกที่แจกให้ผู้เล่นก่อนที่ผู้เล่นจะต้องตัดสินใจ
– HOLD CARDS หมายถึง ไพ่ 2 ใบแรกที่แจกให้ท่านโดยคว่ำหน้าลง จะเรียกกันอีกอย่างว่า
“พ็อคเก็ตคาร์ด” ในเท็กซัส โฮลด์เอ็ม.
– BAD BEAT หมายถึง คำนี้เป็นศัพท์ที่ใช้หมายถึงตอนที่ท่านมีไพ่ในมือที่ดีมาก
แต่ก็ต้องแพ้มือที่ดีกว่า ห้องโป๊กเกอร์บางแห่งให้รางวัลแจ็คพ็อตสำหรับมือแบ๊ดบีทที่ดีที่สุด
ซึ่งก็คือมือแพ้ที่ดีที่สุดนั่นเอง
– BIG BLIND หมายถึง ผู้เล่นที่อยู่ทางซ้ายมือของเจ้ามือวางสมอลบลายด์ (เดิมพันบังคับ)
ซึ่งเท่ากับครึ่งหนึ่ง ของเดิมพันจำนวนน้อยที่สุด ผู้เล่นที่อยู่ทางซ้ายมือของเขาจะวางบิ๊กบลายด์
ซึ่งมีเท่ากับเงินเดิมพันที่น้อยที่สุด
– SMALL BLINDs หมายถึง
ผู้เล่นที่อยู่ถัดจาดผู้เล่นซ้ายมือและต้องวางเดิมพันน้อยกว่าผู้เล่นซ้ายมือครึ่งการเดิมพัน
– DEALER หมายถึงผู้เล่นที่ได้รับการตั้งให้เป็นเจ้ามือในแต่ละมือ เขาไม่ได้เป็นคนแจกไพ่จริงๆ
แต่เป็นคนที่วางเดิมพันเป็นคนสุดท้าย จึงเป็นตำแหน่งที่อาจได้เปรียบ
– BOARD หมายถึงไพ่หงายในเกมฟล็อป
– BUTTONหมายถึงแผ่นกลมที่จะบอกว่าใครเป็นเจ้ามือสำหรับมือนี้ ปุ่มนี้จะเลื่อนตามเข็มนาฬิกา
(ไปทางซ้าย) ในแต่ละมือ
– POT หมายถึง ชิปทั้งหมดที่อยู่กลางโต๊ะ เป็นจำนวนเงินที่เราจะได้เมื่อเล่นชนะ
– CALL หมายถึง เดิมพันที่เท่ากับเดิมพันที่วางอยู่ตอนนั้น
– FOLD หมายถึง การทิ้งไพ่ เมื่อท่านคิดว่าไพ่ในมือของท่านไม่ดีพอที่จะเล่นแล้ว
– CHECK หมายถึงหากไม่มีการวางเดิมพันเพิ่มอีก
ท่านสามาารถผ่านแล้วรอดูว่าจะมีคนอื่นวางเดิมพันหรือไม่ หากทุกคนผ่าน
เกมก็จะเลื่อนไปเล่นรอบต่อไป
– RAISE, RE-RAISE หมายถึง เดิมพันที่เป็นการเพิ่มเงินเดิมพันที่วางอยู่ในตอนนั้น
– ALL-IN หมายถึงเมื่อผู้เล่นมีชิปไม่พอที่จะ “สู้”
เขาต้องเดิมพันด้วยชิปทั้งหมดที่มีรวมทั้งเงินกองกลางในตอนนั้นด้วย เดิมพันใดๆ
ที่วางหลังจากนั้นจะอยู่วางไว้นอกกองกลาง เรียกว่าไซด์พ็อต
และเขาจะไม่เกี่ยวข้องกับเงินไซด์พ็อตนี้ หากมือของเขาสูงที่สุด
เขาจะได้เงินจากเงินกองกลางเท่านั้น แต่จะไม่ได้เงินไซด์พ็อต
– FLOP หมายถึงไพ่ 3 ใบแรกในไพ่หงายของเกมเท็กซัส โฮลด์เอ็ม หรือ โอมาฮ่า โป๊กเกอร์.
– TURNหมายถึงไพ่ใบที่ 4 จากกองกลางในเกมฟล็อป
– RIVER หมายถึง ไพ่ใบสุดท้ายในไพ่หงายของเกมฟล็อป และหมายถึงไพ่ใบสุดท้ายใน 7 คาร์ด
สตั๊ด.
– KICKER หมายถึงไพ่แต้มสูงที่อยู่กับไพ่คู่หรือ 2 คู่
– MUCHKED CARDSหมายถึงการทิ้งไพ่โดยที่ไม่ให้ใครเห็นไพ่นั้น
– NUTS หมายถึง มือที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในเกม มือที่ชนะทุกมือ
และสมควรจะวางเดิมพันให้มากๆ
– POCKET CARDSหมายถึง มีความหมายเหมือนกับไพ่โฮล
– POSTหมายถึง โพสต์ โดยขึ้นอยู่กับ โป๊กเกอร์ เกม.
– RAKEหมายถึงเงินที่คาสิโนดึงมาจากเงินกองกลางทุกครั้งเป็นค่านายหน้า
– FISHหมายถึงผู้เล่นที่อ่อนหัดที่สุดในโต๊ะ เป็นคนที่เสียเงินมากที่สุด เกี่ยวกับคำนี้จะมีสำนวนอยู่ว่า
“หากมองดูไปรอบๆ โต๊ะแล้วไม่เจอคนที่อ่อนที่สุด แสดงว่าตัวคุณนั่นเองที่อ่อนที่สุด
และคุณควรจะเลิกเล่นได้แล้ว”
– ROUNDS Of BETTING หมายถึงรอบของการวางเดิมพันจะจบลงเมื่อผู้เล่นทุกคนได้มีโอกาสที่จะหมอบ สู้
หรือเพิ่มแล้ว
– SHOWDOWN หมายถึงเมื่อการวางเดิมพันเสร็จสิ้นผู้เล่นทุกคนจะต้องเปิดไพ่ทุกใบในมือ
เพื่อดูว่าใครมีมือที่สูงที่สุด
– Bluff หมายถึงการหลอกผู้เล่นอื่น